รีวิวชีวิตปี 61 กับ My Wheel of Life Part 1
รีวิวชีวิตปี 61 กับ My Wheel of Life
เข้าสู่เดือนสุดท้าย ท้ายสุดของปี 2561 กันแล้วนะคะ ....
หลายๆคนคงเริ่มวางแผนพักผ่อน หลังจากทำงานตรากตรำกันมาอย่างหนักหน่วงกันมาทั้งปี
ปีนี้คงเป็นปีที่หลายๆ คนคงจะเริ่มคุ้นเคยและเคยชินกับคำว่า "รีวิว" เพราะเป็นปีที่ฮิตเหลือเกิน
กับการใช้ชีวิตผ่านการรีวิว เรียกว่า ร้านใหม่ร้านไหน ถ้าไม่ผ่านการรีวิว
จะไม่มั่นใจในการไปทานอาหารร้านนั้นเลยทีเดียว
ร้านไหนคนแน่น ลิปสติคสีไหนขายหมดเกลี้ยงภายในวันเดียว เดาได้เลยว่า
ผ่านการรีวิวมาแน่นอน การรีวิวมีหลากหลายมากมาย ทั้งรีวิวร้านอาหาร คอนโด ที่เที่ยว ที่กิน
ห้องพัก บะหมี่ มาม่า อายแชร์โด ลิปสติค ของใน 7-11 หรือ แม้แต่ของสุดฮิตอย่างชานมไข่มุก
และลงลึกไปในทุกย่าน
แต่มันจะแปลกอะไรละคะ ทั้งๆที่ผ่านมาในทุกๆปี เราก็ผ่านการทบทวนหรือประมวลตัวเองมาโดยตลอด
แต่ถ้าอยากจะอินเทรนด์ เราต้องมา “รีวิวชีวิตตัวเอง” ดีกว่าค่ะ ว่าปีที่ผ่านมานี้ เราผ่านอะไรกันมาบ้าง อะไรดี อะไรไม่ดี แล้วสุดท้าย เราเลือกที่จะให้คะแนนตัวเองเท่าไรยังไง
ที่นี่ เรามีมิติต่างๆ มาเป็นตัวช่วยในการรีวิวชีวิตคุณ ตามนี้ค่ะ ....
วิธีรีวิวชีวิต ด้วย Wheel-Life
วาดวงกลม 1 วง แล้วขีดเส้น 3 เส้น ให้แบ่งวงกลมนั้นออกเป็น 6 ช่องเท่าๆ กันค่ะ
และ ตัวเลขริมวงกลมมีค่าเท่ากับ 10 และเป็นหัวข้อต่างๆ
จุดตัดตรงกลางคือ เลข 0 จากนั้น วาดวงกลม เบาๆ รางๆ ระหว่างกึ่งกลางอีกวง
เปรียบประมาณเลข 5 จากนั้นก็ Plot เลขที่เราให้ในแต่ละมิติค่ะ
คำนิยามง่ายๆ :
10 คือ ตามเป้าเป๊ะ สุขสุดๆ มันคือใช่ ... ไม่มีอะไรดีกว่านี้อีกแล้ว และก็ลดหลั่นกันไป
5 คือ กลางๆ ไม่ดี ไม่แย่ ไม่บวกไม่ลบ เรียกว่า ไม่สุขไม่ทุกข์ มีความโอเค ....
เรียกว่า เป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข แต่ก็ไม่ถึงกับเศร้านะคะ
ส่วน 1 คือ ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลย คือแย่มากๆจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็คือไม่ใช่
มันไม่ใช่ปีของเราเลยจริงๆ ปีหน้าฟ้าใหม่ เริ่มต้นอีกครั้งละกันนะ
วิธีแปลความหมาย :
ยิ่งวงกลมของเรายิ่งกลม แปลว่า ปีที่ผ่านมา ชีวิตเรายิ่งราบรื่น ไม่มีสะดุดอะไร แต่ถ้ามันขึ้นๆลงๆ นั้นแปลว่า เราค่อยข้างจะลำบากกับการใช้ชีวิตพอสมควรใช้ไหมคะ ปีหน้าเราอาจะต้องวางแผนให้ดีกว่านี้ เรียกว่า ต้องตั้งสติในการทำงานมากกว่านี้แล้วล่ะคะ
พร้อมแล้วก็เริ่มกันที่เรื่องแรกเลยค่ะ
Work & Career : เรื่องราวเกี่ยวกับงาน การทำงาน อาชีพ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ หรือ งานไม่ประจำ แต่ขอให้อยู่ในหมวดของการทำงาน เนื่องจากชีวิตคนปัจจุบันนี้มีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างไปจากสมัยที่ผ่านๆ มาค่อนข้างมาก จากประสบการณ์การสัมภาษณ์คนมามากกว่าร้อยคน หลังๆ สิ่งที่พบคือ หลายๆคนมักจะมีอาชีพที่เขียนมาใน CV ที่ควบคู่ไปกับการทำงานใหม่ๆที่ไม่ค่อยได้เจอใน CV รุ่นก่อนๆ เช่น Online Clothing, 50K fanpage, Youtuber, 270K viewers เป็นต้น สิ่งที่เราพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี คือ พวกเขาเหล่านั้น มักจะสามารถทำงานหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน แบ่งเวลาได้ดี และมักมองเห็นโอกาสทางธุรกิจตลอดเวลา และที่มากไปกว่านั้น คนเหล่านี้มักจะรู้ว่าจุดแข็งของตัวเองคืออะไร และพร้อมจะใช้จุดแข็งเหล่านั้นเป็นใบผ่านทางให้สำหรับตัวเองเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งต่างจากคนสมัยก่อน ที่มักจะถ่อมเนื้อถ่อมตัว ไม่กล้าบอกใครว่าตัวเองเก่งด้านไหนยังไง จนกว่าจะมีคนมาบอก หรือ รอจนอายุมากแล้วค่อยโชว์ความเก๋าให้คนอื่นเห็น สำหรับหมวดนี้ ... อ่านจบก็ให้คะแนนตัวเองได้เลยคะ เต็ม 10 ให้คะแนนเท่าไรดีคะ
Finance : ใช่ค่ะ มันคือ เรื่องทางการเงิน ว่าเรามีฐานะทางการเงินเป็นยังไงบ้าง ยังคงเดือนชนเดือน รึเปล่า หรือ หาเช้า กินค่ำ หรือว่า เลือกใช้วิธีลดความอ้วนกินน้ำเปล่าแทนข้าวมาโดยตลอด หลายๆคนเลือกที่จะสั่งอาหารออนไลน์โดยเฉพาะการสั่งพวกอาหารควบคุมแคลอรี่ ที่ทุกเจ้าพยายามจะบอกว่ามันไม่แพง แต่จริงๆ ลองมาคิดนะคะ มันแพงมาก!!! ทั้งๆที่ผักก็เยอะ เนื้อสัตว์ก็ไม่ค่อยมี อะไรก็ไม่ค่อยได้ปรุง ถ้าทุกคนจะลองซื้อมาทำเองคะ มันถูกกว่าและมันดีต่อสุขภาพของเราด้วย และถ้าเราพอจะมีรายรับที่มากกว่ารายจ่าย อยากให้ลองพิจารณาเรื่องของการลงทุนเพิ่มเติมด้วย และถ้ามันยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีก ก็จะส่งผลในเรื่องของกำไรสองต่อเลยทีเดียว หลักการง่ายๆ ของเรื่อง Financeคือทำยังไงก็ได้ ให้รายรับเรามีมากกว่ารายจ่าย หรือ อย่างน้อย เราต้องจ่ายน้อยกว่ารายรับที่เรามี นั้นเอง เต็ม 10 คือเราสามารถเก็บเงินหรือลงทุน หรือ มีเงินได้ตามเป้าเป๊ะๆ ถ้าต่ำกว่า 5 หรือ ได้ไม่ถึงครึ่งที่ตั้งใจ แต่ถ้าที่ผ่านมาไม่เคยได้ตั้งเป้า หรือ ไม่เคยได้เก็บเลย เรียกว่า หามาเท่าไรหายไปไหนหมดดีกว่า แบบนั้นให้ไปเลยเต็มๆที่ 1 คะแนนค่ะ พวกที่ตามกินตามรีวิว บุฟเฟ่ต์มื้อละเป็นพัน แล้วมาตามกินมาม่าสิ้นเดือน ก็น่าจะให้คะแนนกันถูกนะคะว่าให้เท่าไรดี 3. Health :หรือ ชัดๆที่เรื่องสุขภาพค่ะ หลังจากที่คิดวิเคราะห์กันในเรื่องของการงาน การเงินกันไปแล้ว อย่าลืมคิดถึงเรื่องสุขภาพด้วยนะคะ เพราะว่าหากการงาน การเงินดี แต่ว่าเสียเรื่องสุขภาพอะไรๆก็จะร่วงไปหมดนะคะ เข้าโรงพยาบาลสมัยนี้ กระพริบตาทีก็หลายหมื่น เป็นหวัด ฮัดเช้ยครั้งละ 3-4,000 ก็ไม่ไหว เรื่องสุขภาพรวมไปถึงแนวโน้มของการดูแลสุขภาพร่างกาย การหลับการนอนอย่างมีคุณภาพ อาหารการกินในแต่ละมื้อ รวมไปถึงการออกกำลังกาย และแม้แต่เรื่องของการตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ ลองทบทวนตัวเองดูว่าปีที่ผ่านมา เรามีการดูแลสุขภาพตัวเองในระดับไหนอย่างไรบ้าง ได้ทานอาหารที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ ปรุงสุก สดใหม่ หรือ มาม่า พิซซ่ากันทุกวัน นอนหลับได้วันละ 7-8 ชั่วโมงทุกวันไหน หรือว่า เฉลี่ยได้แค่ 4-5 ชั่วโมง เรื่องออกกำลังกาย ได้ไปร่วมงานวิ่งกับใครที่ไหนไหม หรือซื้อฟิสเนสประจำปีเพื่อเอาไว้อวดคนอื่นเฉยๆ แต่ว่าทั้งปี ได้เข้าไปอาบน้ำไม่ถึง 4 ครั้ง ลองทบทวนดูนะคะ ว่าเราให้คะแนนตัวเองในข้อนี้ที่ระดับเท่าไร เพราะมันจะมีความต่อเนื่องกับข้ออื่นๆด้วยคะ 10 หมายถึง เป็นปีที่เราดูแลสุขภาพร่างกายแบบ Perfect เลย เรียกว่าสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูดีตั้งแต่อาหารที่เข้าไปในร่างกายจนถึงการดูแลระบบเผาผลาญ ออกกำลังกายอย่างดี ถ้าสัก 5 คือ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่เรียกว่ายังพอทำได้ ถ้าทำได้ต่ำกว่านั้น เรียกว่ามีความตั้งใจ แต่ยังทำไม่ได้ดี ก็น่าจะสัก 3 แต่ถ้า....มีวิถีชีวิตที่ย่ำแย่เช้าหมูปิ้งข้างทาง กลางวันมาม่า เย็นพิซซ่า นอนตีสอง ตื่นตีห้า หกโมงติดๆกัน ชีวิตเครียดหนัก ออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยมีนอกจากวิ่งขึ้นรถเมล์ แบบนี้ตีไปเลยค่ะ 1 ชัวร์!
สำหรับคนที่สนใจ ขอมาต่อในตอนต่อไปนะคะ
แล้วมาติดตามอีก 3 เรื่องที่เหลือ ว่ามีจะเนื้อหาเป็นยังไงนะคะ
อย่าลืมติดตามกันนะคะ!