top of page

เส้นบางๆ ระหว่าง Senior กับ Manager

เส้นบางๆ ระหว่าง Senior กับ Manager

หรือว่านี่ ... จะเป็น “Mid-Life Crisis” ของการทำงาน

.

.

.

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ มีทั้งเพื่อนเก่า น้องเก่า เริ่มทักทายกันมาปรึกษาหลากหลายคน

ด้วยปัญหาใกล้เคียงกัน ทำนองว่า ....

“พี่คะ ถ้าจะย้ายงาน Profile แบบน้องเป็น Manager ได้รึยัง

เป็น Senior มาก็หลายปีแล้ว อายุก็น่าจะถึง ทำงานมาก็นาน ประสบการณ์ก็น่าจะได้แล้วนะ

แต่ทำไม สัมภาษณ์ทีไร ได้เป็นแค่ Senior ....

แต่งานปัจจุบัน ไม่ใช่ว่า ไม่ Happy นะ ... มันก็โอ แต่ว่า ...

อยากได้ความท้าทายมากกว่านี้ และที่สำคัญ

อยากเป็น Manager บ้างแล้วอะ ... เพื่อนๆก็เป็นกันหมดแล้วนะพี่”

“พี่ครับ ... พี่ว่า แบบผมเนี่ย Package จะขึ้นได้อีกเท่าไรดี 30-40% ดีไหม

ผมว่าผมทำตรงนี้มา เกิน 10 ปีแล้ว ผมพร้อมและอิ่มตัวกับตรงนี้มาพอควร

มันก็ทำได้นะพี่ ... แต่มันก็ทำไปวันๆ อยู่ได้ แต่เริ่มไม่สนุก

เพราะบริษัทที่ผมทำอยู่ มันดีมากจน ผมต้องคิดหนักจริงๆ

แต่จะมีที่ไหนให้ Package ดีกว่าที่นี่ พี่ว่ามีอีกไหมครับ”

มีใครเจอภาวะแบบเพื่อนเรา สองคนนี้ไหมคะ ....

ภาวะที่ทุกอย่างดูดี พร้อม และเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเป็นแรงกดดัน นอกจากตัวเอง

สิ่งที่ทำให้เริ่มคิด คิดอายุ และวัยวุฒิ สิ่งแวดล้อมภายนอกเริ่มเข้ามากดดัน

เวลาไปเจอเพื่อนฝูง เริ่มทำให้เราต้องมองมากกว่า

ความสุข ความสบายไปวันๆ และสิ่งสำคัญที่เริ่มมองหา คือ

.

.

.

ความท้าทาย

หากเราจะมาวิเคราะห์กันให้ลึกๆทีละกรณีไป จะพบว่า

สำหรับเคสแรก สิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องมาดูที่เนื้องาน

ที่เค้าทำงานอยู่ว่าทุกวันนี้เป็นยังไง และการได้รับตำแหน่ง Senior

เป็นไปตามเนื้องาน หรือ แค่อายุงาน

เพราะบางองค์กร เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าชื่อตำแหน่ง มาจากอายุงานเท่านั้น

สิ่งที่ อยากจะแนะนำให้เราลองทำก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่า

เราพร้อมสำหรับตำแหน่ง Manager แล้วหรือยัง คือ

แต่งตัว CV หรือ รวบรวม “Achievement” ของเรา

ออกมาเป็นเหมือน “House of Fame” ของตัวเอง

เชื่อไหมคะ .... บางคน ตั้งแต่ทำงานมาจนถึงครึ่งชีวิต

ไม่เคยแม้แต่หยุดทบทวนตัวเองเลยว่า ที่ผ่านมา เราเคยทำอะไรสำเร็จมาบ้าง

งานไหน เราเคยทำอะไร และ ทำหน้าที่อะไร หน้าที่ไหน เรายังไม่เคยทำ และอยากทำ

และมีหน้าที่ไหนไหมที่เราควรจะต้องทำเพื่อพัฒนา เพราะมันมีผลต่อหน้าที่การงานเราในอนาคต

สิ่งที่ได้ .... แน่นอนคะ CV / Resume เราจะมีความน่าสนใจมากขึ้น เพราะ

มันจะไม่ได้มีแค่ ประวัติการศึกษา หรือ ประวัติที่ทำงาน

แต่มันจะเต็มไปด้วยผลงาน ที่เรามีเรื่องเล่าอันมากมาย

ที่พร้อมจะเป็นตัวชูโรงและขายตัวเองให้กับทุกคน

สิ่งที่ตามมา คือ “Self-Esteem” อันนี้เป็นเชิงจิตวิทยาหน่อยๆ แต่ได้ผลดีในทุกครั้ง

ไม่มีใครที่ไม่เกิดความภูมิใจ เมื่อรู้ว่า ... ชั้นก็มีดี แม้มันอาจจะไม่มาก (แต่ถ้ามาก .. ก็ดี)

บางครั้ง มันแค่เกิดจากการที่เราไม่เคยรวบรวม

สุดท้ายคะ การ Design รูปแบบของ CV/ Resume ก็สำคัญเช่นกัน

เพราะเป็นการบ่งบอกว่า เราเป็นคนทำงานแบบไหน อย่างไร ละเอียด เรียบง่าย เป็นขั้นตอน หรือ สุภาพ ทางการ หรือ แม้แต่เป็นคน Creative ... และใช่ค่ะ เมื่อเราได้ Content และเนื้อหาครบ

อย่าลืมไปสร้างตัวตนใน ชุมชนออนไลน์แบบมืออาชีพอย่าง LinkedIn เพื่อสร้างตัวตนของเรา

หลายๆครั้ง ที่เรามักเจอว่า ... บางคนขายตัวเอง เก่งกว่าความสามารถ เพราะเค้ารู้จักตัวเองดีพอ

และนำเสนอจุดแข็งของเค้าได้อย่างถูกจุด และหลายๆครั้งกับหลายๆคน

ที่มักหาหรือไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำยังไงนะ ถึงจะ Selling ตัวเองได้

มันเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากนะคะ ของแบบนี้ ขอแค่ต้องลองค่ะ ...

เริ่มต้นที่ หยุดคิด และทบทวนตัวเอง

แล้ว Rebrand สินค้าดี โปรโมชั่นเด่น ...

ขี้คร้าน จะเลือกไม่ไหว ว่าจะทำงานที่ไหนดีนะ

ลองดูนะคะ

bottom of page