3 วิธีปรับทักษะอย่างไรไม่ให้ AI แย่งงานคุณ
เราคงได้เห็นกันมาไม่น้อยแล้วที่วิวัฒนาการของเทคโนโลยีเข้ามา Disrupt สิ่งเดิม ๆ ที่เคยมีมานานให้หายไปจากโลก ธุรกิจมากมายทั่วโลกล้มหายตายจากด้วยน้ำมือของ “นวัตกรรม” ในยุคดิจิตอลเข้ามาแทนที่ เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในต่างประเทศเท่านั้น อย่างในบ้านเราเองที่ Application ชื่อดังก็ทำเอากิจการรถโดยสารประจำท้องถิ่นได้รับผลกระทบจนออกมาต่อต้านด้วยความรุนแรง หลายคนที่ได้ทราบข่าวนี้อาจถอนหายใจแล้วคิดว่า “โชคดีแค่ไหนที่ไม่ได้เป็นเรา” แต่อย่าได้นิ่งนอนใจไปนะครับ ! เพราะความก้าวหน้าที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้นั้นเริ่มเข้าใกล้เข้ามาทุกขณะ เมื่อเริ่มมีหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนคนได้ในการผลิตหลาย ๆ จุด หรือแม้แต่ระบบปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) ในอักษรย่อที่คุ้นหูกันว่า “ AI” ก็เข้ามามีบทบาททำหน้าที่สมองกลใช้ความคิดประมวลผลแทนสมองคนได้ แถมยังแม่นยำกว่าซะด้วยสิ ! ดังคำกล่าวติดตลก (ร้าย) ที่พูดต่อ ๆ กันมาว่า “ในอนาคตโรงงานผลิตจะมีเพียง ‘เครื่องจักร’ ที่ทำงานอย่างอัตโนมัติ และ ‘สุนัข’ ที่คอยเฝ้าไม่ให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเครื่องจักร โดยมี ‘มนุษย์’ ไว้คอยให้อาหารสุนัขตัวนั้นอีกที นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ ที่สะท้อนความจริงบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับคนทำงานในยุคอันใกล้นี้ ที่ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมแวดวงไหนก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องพบเจอ เรียกได้ว่าหน้าที่การงานของใครหลายคนในหลากหลายสาขาอาชีพกำลังจะสั่นคลอน แต่รู้ไหมครับว่าคนทำงานอย่างเรา ๆ ก็ยังมีหนทางในการพัฒนาทักษะบางด้านที่ AI ไม่อาจเข้ามาแย่งงานคุณได้ ซึ่งทักษะในภาพใหญ่ ๆ ที่อยากฝากไว้เพื่อพัฒนากันต่อไป มีดังนี้ครับ
1. มี “Service Mind” เข้าใจคน ถึงแม้ชื่อของมันจะเรียกว่า “Service Mind” แต่ก็ไม่ได้เฉพาะเจาะจงในงานบริการเพียงอย่างเดียว อย่างในวงการตลาดออนไลน์ที่ว่ากันว่าอีกไม่นานจะมี AI เข้ามาทำหน้าที่ประมวลผลกลุ่มเป้าหมาย เพื่อส่งโฆษณาไปหาได้แม่นยำยิ่งกว่าคน แม้ว่ามันจะฉลาดในการเก็บข้อมูลมาเป็นสถิติจนคาดคะเนพฤติกรรมมนุษย์ได้ขนาดนั้น (ฟังดูน่ากลัว) แต่อย่าลืมว่าจะมีใครมาเข้าใจ ‘เหตุผล’ และ ‘อารมณ์’ ที่อยู่เบื้องหลังของพฤติกรรมเหล่านั้นได้ดีไปกว่ามนุษย์ด้วยกันคงไม่มีอีกแล้ว “Service Mind” จึงเป็นเรื่องของ ‘ความเข้าใจ’ ที่สิ่งประดิษฐ์ไร้ชีวิตจิตใจไม่อาจจะรู้ซึ้งได้ อันเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ เพื่อทำความเข้าใจคน ก่อนจะเสิร์ฟสิ่งที่ตรงใจเขาให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่ว่างานไหน ๆ ต่อให้นั่งเฝ้าอยู่แต่หน้าคอมทั้งวัน ยังไงงานของคุณก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับ ‘คน’ , ‘ลูกค้า’ หรือ ‘ผู้รับบริการ’ ในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม ดังนั้นอย่าได้ละทิ้งคุณสมบัติเฉพาะที่ติดตัวมาโดยธรรมชาตินี้ไปซะล่ะครับ
2. ใช้ “ความคิดสร้างสรรค์” ปั้นสิ่งใหม่ ๆ ในที่นี้ไม่ได้จำกัดวงอยู่เฉพาะในงานเชิง Creative หรือออกแบบ Design เท่านั้น ย้อนกลับไปหาคำว่า “นวัตกรรม” ที่เราพูดถึงไปในตอนต้น คุณคิดว่าเทคโนโลยีพวกนี้สร้างตัวมันเองขึ้นมาเหรอครับ ? แน่นอนว่าไม่ใช่ ! มนุษย์เองเรานี่แหละที่ประดิษฐ์มันขึ้นมาด้วยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งในสาขาอาชีพ การงาน หรือธุรกิจที่คุณทำอยู่ก็ต้องการสิ่งนี้เป็นตัวขับเคลื่อนไปสู่ก้าวใหม่ ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบในการส่งมอบคุณค่าใหม่ ๆ ที่น่าสนใจกว่าเดิม หรือผ่านช่องทางใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น ฯลฯ เพราะในทุกซอกทุกมุมของการทำงานมีพื้นที่ว่างให้ใส่ความคิดใหม่ ๆ ลงไปได้เสมอ และดูเหมือนว่า AI ก็ยังไม่ Expert พอที่จะมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ได้ด้วยตัวเองครับ
